‘Varinah Resort’ โรงแรมที่อยู่ร่วมกับทะเลและภูเขา
Area: 4,000 sq.m.
Year: 2018
Location: Khao Sam Roi Yot National Park, Prachuap Khiri Khan, Thailand
Project Architects: Akapatr Chiraarreebutr
Architectural Design Team: Pichate Sanguanchaipaiwong, Puvadol Pothanuluck, Danaipun Seangsawang
Interior Design Team: Niramol Woolsey, Kannika Kaewopas
Engineering: mArchten Co., Ltd.
Landscape: mArchten Co., Ltd.
Consultants: mArchten Co., Ltd.
Contractor: mArchten Co., Ltd.
Collaborators: Nadia Dahlan (Chief Interior Designer)
Photographer: beersingnoi
โครงการ Varinah Resort ตั้งอยู่ในอำเภอสามยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากหัวหินประมาณ 30 นาที บรรยากาศเงียบสงบถูกล้อมด้วยบรรยายกาศของธรรมชาติ ทั้งบริเวณด้านที่เป็นทิศตะวันออกตรงกับอุทยานแห่งชาติสามร้อยยอดส่วนทิศตะวันตกเป็นฝั่งของทะเลอ่าวไทย ทำให้ช่วงเช้าจะเห็นวิวพระอาทิตย์ขึ้นจากยอดเขาและในบางวันอาจจะเห็นความสวยงามของมวลเมฆด้วย ส่วนช่วงเย็นสามารถนั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกดินชิล ๆ ที่ริมชายหาดได้
คอนเซปท์หลักจึงหยิบบรรยากาศจากภูเขาและหาดทรายมาเป็นหลักในการออกแบบ โครงการนี้มี 2 ส่วน คือ ส่วนของโรงแรมและ Pool Villa ดีไซน์เนอร์จึงการวางผังให้วิลล่าวางไว้ในสุดเพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้เข้าพัก ส่วนของโรงแรมจึงรับกับถนนริมชายหาดด้านหน้าและยกระดับพื้นของโรงแรมขึ้นมาอีกหนึ่งชั้นเพื่อให้สามารถรับวิวจากฝั่งภูเขาได้
“ทีมออกแบบลงพื้นที่ตลอด 5 วัน วิวต่างกันทุกวันเลย บางวันท้องฟ้าก็กลายเป็นส้มบ้าง สีม่วงบ้างสลับกัน สีของทะเลก็จะเปลี่ยนตามสีของท้องฟ้า วันไหนโชคดีหน่อยก็จะมองเห็นหมอกไหลตามร่องเขาสามร้อยยอดกลายเป็นน้ำตกหมอก ซึ่งเราไม่คิดว่าจะได้เห็นในไซต์นี้เลย”
ทางเข้าส่วน Lobby เปิดโล่งมาแต่ไกล มีเส้นสายความโค้งที่ได้มาจากความโค้งของเกลียวคลื่น และเลือกใช้วัสดุตกแต่งเป็นไม้สักส่วนใหญ่ บันได้ทางขึ้นอาคารดีไซน์ให้มีทางลาดตอบการใช้งานแบบ Universal Design ดีไซน์เนอร์ออกแบบให้ Lobby นี้เป็นสเปซที่สำคัญอีกหนึ่งของโรงแรมแห่งนี้
โดยโรงแรมแบ่งเป็น 3 อาคารเป็นลักษณะรูปตัว U คือเว้นคอร์ตตรงกลางเป็น Reflection Pond เพื่อให้ได้ความรู้สึกเชื่อมต่อกับทะเล และให้ Lobby ของโรงแรมอยู่ตรงกลางซึ่งดีไซน์ให้มีการเปิดโล่ง โปร่ง เห็นทั่วทะลุทั้งโครงการได้ ถือเป็นจุดสำคัญที่ได้รับวิวทั้งตอนเช้า-เย็นไปเต็ม ๆ
Reflection Pond ให้ความรู้สึกที่สามารถสัมผัสธรรมชาติ ขนาบด้วยอาคารทั้งสองด้าน และยังยกต้นมะพร้าวต้นที่เคยอยู่ในพื้นที่เก่ามาประดับริมสระ เพิ่มกลิ่นอายของการท่องเที่ยวทะเลด้วยการตกแต่งเชือกอวนโยงกับต้นมะพร้าว ส่วนสวนบนดาดฟ้าของอาคารทั้งสองก็สามารถเดินเชื่อมมายังสระว่ายน้ำตรงอาคารส่วนกลางได้ทำให้สร้างประสบการณ์ใหม่ในการมาพักผ่อน
ฟาซาดจากลูกมะพร้าว เดิมทีพื้นที่ก่อนสร้างเป็นสวนมะพร้าว ความตั้งใจหลักของดีไซน์เนอร์คือการให้โรงแรมแห่งนี้ยังคงต้นมะพร้าวเดิมไว้ ฟาซาดของอาคารจึงมีที่มาจากการใช้ลูกมะพร้าวของจริงในการทำ Pattern เล่นจังหวะนูนต่ำ-นูนสูง เช่นเดียวกันกับเสาข้าง ๆ ที่ยื่นออกมารับผ้าใบ เลือกใช้ลูกเล่นการพันเชือกรอบเสาทั้งหมด ทำให้เสาทั้งหลายเหล่านี้เกิดเป็น Texture เช่นเดียวกันกับลำต้นของต้นมะพร้าว หากมองไกล ๆ แล้วดูกลมกลืนกันอย่างไม่แปลกตา
พื้นที่ส่วนกลางสำหรับทุกคน มาถึงโซนของพื้นที่ส่วนกลางที่ตอบโจทย์ทุกวัย ตั้งแต่มุมเล่นของเด็ก ๆ ที่มีชิงช้าห้อยลงมาจากเพดาน และสามารถมองเห็นได้จากห้องออกกำลังกาย ผู้ปกครองสามารถเฝ้าดูเด็ก ๆ ได้พร้อมกับออกกำลังไปด้วย ถัดมาเป็นห้องสมุดสำหรับการนั่งอ่านหนังสือ ซึ่งมุมนี้จะมองเห็น Sky walk ที่เชื่อมต่อระหว่างโซนของโรงแรมและโซนของวิลล่าได้
ว่ายน้ำกับภูเขาและทะเล
ขึ้นมาชั้นบนสุดของอาคารส่วนกลางมายัง Rooftop Swimming Pool ที่เดินจากดาดฟ้าของห้องพักโรงแรมได้ นับเป็นอีกจุดสำคัญของโรงแรมแห่งนี้เพราะสระว่ายน้ำแห่งนี้ดีไซน์มาให้ได้รับประสบการณ์การว่ายน้ำสุดพิเศษ คือการว่ายน้ำพร้อมชมวิวจากเขาสามยอดและทะเลอ่าวไทยได้ในเวลาเดียวกันแบบ 360 องศา ให้ความรู้สึกถึงการสัมผัสธรรมชาติ มองท้องฟ้าสีสวย ผิวกระทบกับลมทะเล พักผ่อนริมสะว่ายน้ำได้อย่างมีความเป็นส่วนตัว
ห้องพักที่ได้รับวิวธรรมชาติทุกมุมมอง
ห้องพักมีทั้งหมด 3 แบบ Superior Room, Deluxe Room และ Super Deluxe Room ทั้ง 3 แบบถูกดีไซน์ให้สามารถมองเห็นวิวของคอร์ทยาร์ตตรงกลางและวิวทะเลได้ทั้งหมด แต่สำหรับห้องที่พิเศษที่สุดจะเป็น Super Deluxe Room ที่เป็นห้องพักหน้าสุด สถาปนิกดีไซน์ให้มุมของห้องเป็นกระจกเพื่อสัมผัสบรรยากาศเพียงแค่เปิดม่านก็จะได้รับวิวชายหาดและทะเลอ่าวไทยยาวสุดลูกหูลูกตา ผสมผสานการตกแต่งด้วยไม้ทำให้รู้สึกอบอุ่น สร้างความนุ่มนวลด้วยโทนไม้ โต๊ะไม้พันด้วยเชือกตกแต่งที่ไม่ทิ้งกลิ่นอายความเป็นทะเล ภายในห้องน้ำเองยังคงเห็นบรรยากาศภายนอกได้ด้วยการเลือกใช้มู่ลี่ที่สามารถเปิดปิดได้ตามความเป็นส่วนตัว
Pool Villa ที่กั้นสเปซด้วยความทึบ-โปร่งของใบไม้
เดินบน Sky walk จากโซนของโรงแรมมายัง Pool Villa ที่มีทั้งหมด 8 หลัง โดยทั้งหมดมีสระว่ายน้ำส่วนตัว และมีทางเดินเชื่อมต่อไปสู่สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ตรงกลาง มีรั้วเป็นพุ่มไม้ขนาดสูงแต่ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด ปิดกั้นสเปซความทึบโปร่งด้วยใบไม้และสร้างความเป็นส่วนตัวไปในตัว
บ้านพักโซน Pool Villa ยังคงเลือกใช้ไม้ในการตกแต่งองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น พื้น, ประตู, เฟอร์นิเจอร์ หรือแม้กระทั่งวงกบไม้ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ในขณะเดียวกันการเลือกใช้เชือกมะนิลาเป็นซุ้มไฟเพดาน ห้อยลงมาและเว้นระยะสับหว่างสื่อความรู้สึกของทะเลออกมาได้ไม่ขัดแย้งกับงานไม้ภายใน สระว่ายน้ำภายนอกดีไซน์ให้แตกต่างกันโดยปรับตามพื้นที่ของแต่ละหลังและแยกสเปซจากภายนอกด้วยพุ่มไม้สูง
ปล่อยตัวปล่อยใจให้ ‘ลิ่ว ละ ล่อง’
สำหรับโซนอาหารดีไซเนอร์ออกแบบให้มีความพริ้วไหว หยิบมาจากชื่อร้าน ‘ลิ่ว ละ ล่อง’ ที่เป็นร้านอาหารของทางโรงแรมและตั้งอยู่ทางด้านหน้าติดกับถนน ผนังกระจกโค้งทำหน้าที่เปิดรับวิวจากฝั่งโรงแรมและทะเล ตอบการใช้งานด้วยการปรับเป็นบานเฟี้ยมกระจกเพื่อให้เปิดรับลมจากด้านนอกได้ และในเวลาเดียวกันหากจะกั้นสเปซเป็นห้องแอร์ก็เพียงแค่ปิดบานเฟี้ยม เพดานตกแต่งด้วยริ้วผ้าที่ดึงมาจากความโค้งของคลื่นทะเล ดีไซน์เนอร์ยังคงคอนเซ็ปท์ของไม้เพื่อให้เข้ากับสเปซส่วนอื่น ๆ ของโรงแรม
นั่งมองวิวพระอาทิตย์ตกยามเย็น
ตกเย็นนั่งรับลม ชมวิว ริมหาดทรายหน้าโรงแรม สัมผัสวิวพระอาทิตย์ตกดินได้ไม่ไกลจากโรงแรม นอกจากการออกแบบสเปซของโรงแรมแล้ว ดีเทลเล็ก ๆ อย่างโคมไฟที่ไว้ใช้ริมทะเล ทางดีไซน์เนอร์ยังออกแบบมีเส้นสายของความโค้งให้เข้ากับบรรยากาศของโรงแรมและทะเลอีกด้วย
Varinah Resort จึงเป็นหนึ่งในโปรเจ็คที่ดีไซน์เนอร์จาก mArcten ชอบที่สุด ด้วยบรรยากาศเงียบสงบห่างไกลจากตัวเมือง วิวแบบ 360 องศาจากเขาสามร้อยยอดและทะเลอ่าวไทย และการออกแบบที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด ความพยายามของดีไซน์เนอร์ที่ร้อยเรียงคอนเซปท์และเรื่องราวของโรงแรมไว้เป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการหยิบกลิ่นอายของทะเลมาใส่ในการออกแบบ ฟาซาดที่ได้มาจากการเล่นจังหวะนูนต่ำ-นูนสูงโดยใช้ลูกมะพร้าวของจริง การเลือกสีโทนไม้ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น หรือ ตาข่ายที่เป็นทั้งผนังและเพดานตกแต่ง เพื่อให้ทุกคนได้รับประสบการณ์การพักผ่อนอย่างคุ้มค่า
ทิ้งความวุ่นวาย หลีกหนีจากเสียงรถยนต์มาฟังเสียงคลื่นทะเล ชาร์ตแบตในวันหยุดสุดสัปดาห์ได้กันที่ Varinah Resort ณ ปราณบุรี
เขียน : ปาณิสรา
ภาพ: Beer Singnoi