Year: 2022
Area: 170 SQ.M.
Location: Sainoi, Nonthaburi, Thailand
Lead Architects: Akapatr Chiraarreebutr
Architects: Puvadol Pothanuluck, Kanyarat Janjammongkol
Engineering: YWN Design Co.,Ltd.
เริ่มต้นด้วยการคั่วเมล็ด
โปรเจกต์นี้เริ่มต้นมาจากธุรกิจของ คุณนพพล อมรพิชญ์ปรัชญา ที่นำเข้าเมล็ดกาแฟมาคั่วและจัดจำหน่ายในประเทศไทย ก่อนจะพัฒนาสู่การก่อตั้งร้านกาแฟของตัวเองในชื่อ ‘Bottomless’ ซึ่งมาเปิดตัว Flagship store สาขาแรกในจังหวัดนนทบุรี แล้วขยับขยายสาขาออกไปจนความต้องการเมล็ดกาแฟคั่วเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เจ้าของจึงเกิดความคิดที่จะเปิดโรงงานใหม่อีกแห่งในอำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี ที่เป็นพื้นที่ใกล้เคียงกัน โดยที่นี่จะทำหน้าที่เป็นทั้งโรงงานคั่วเมล็ดกาแฟและสำนักงานใหญ่ของแบรนด์ที่ใช้รับรองผู้มาติดต่อ โจทย์จึงต้องเป็นโรงงานที่ได้มาตรฐาน พร้อมยังคงมาดเนี้ยบเท่ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ไว้ด้วย
ผสมดำขาวเป็นกาแฟนมอันกลมกล่อม
ความต้องการของเจ้าของโปรเจกต์นั้นเรียบง่ายและตรงไปตรงมา รวมถึงไม่ต้องการองค์ประกอบประดับอาคารมากมาย mArchten จึงอยากคงความเรียบง่ายส่วนนั้นด้วยวัสดุธรรมดาๆ อย่างเมทัลชีทและอะลูมิเนียม แล้วใช้การออกแบบโครงสร้างยื่น (cantilevered floor) ในการทำให้อาคารมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง คอนเซ็ปต์หลักของโรงงานจึงเป็นการเน้นโครงสร้างส่วนนี้ด้วยสี โดยผนังส่วนอื่นๆ ของอาคารจะใช้เมทัลชีทสีขาวต่างจากส่วนดังกล่าวที่ใช้สีดำ จนเกิดเป็นภาพราวกับก้อนอาคารกำลังลอยอยู่บนอากาศ
มาตรฐานเข้มข้นเหมือนเอสเพรสโซช็อต
ตามปกติการสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมหนึ่งต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเฉพาะหลายข้อ แต่การออกแบบอาคารที่เกี่ยวข้องกับอาหารนั้นจะมีความละเอียดไปอีกขั้น เนื่องจากเป็นของที่มนุษย์ต้องบริโภคเข้าไปในร่างกาย นอกจากโจทย์เรื่องความสวยงามและการใช้งานขั้นพื้นฐานโดยทั่วไปแล้ว Bottomless Factory ยังถูกออกแบบตามมาตรฐาน GMP หรือ Good Manufacturing Practice (มาตรฐานในการผลิตอาหาร) ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่โครงสร้างอาคารไปจนถึงการวางระบบผลิตภายในให้ได้มาตรฐาน รวมถึงระบบการจัดการเรื่องสุขอนามัยจนกว่าเมล็ดกาแฟจะถึงมือผู้บริโภค ข้อกำหนดตรงส่วนนี้เข้ามามีผลกับการออกแบบทุกส่วนในอาคาร เพื่อมอบเมล็ดกาแฟที่ผ่านการกระบวนการผลิตได้คุณภาพให้กับลูกค้าของแบรนด์ทุกคน
รับเพิ่มอีกแก้วไหมครับ
อีกสิ่งที่ทีมออกแบบตั้งใจนำเสนอเพื่อแสดงตัวตนของ Bottomless ให้แข็งแรงขึ้นคือไอเดียเรื่องการตกแต่งฟาซาดบริเวณด้านหน้าอาคารด้วยชื่อแบรนด์ ซึ่งมีทั้งประโยชน์ใช้สอยในการบังแสงแดดตอนกลางวันโดยยังคงความโปร่งของอาคารไว้ ทั้งยังสามารถเป็นจุดสังเกตให้รถที่สัญจรผ่านไปมาได้ นอกจากนี้คือไอเดียการขยับขยายพื้นที่ว่างด้านหลังให้กลายเป็นร้านอีกสาขาที่สามารถเอาไว้รองรับลูกค้าที่มาคุยงาน หรือจะเป็นลูกค้าที่แวะเวียนมาจิบกาแฟรสชาติดีก็ได้ ซึ่งทั้งสองส่วนนี้ก็เป็นจุดที่ mArchten คิดเผื่อไปถึงทิศทางการขยับขยายในอนาคตของ Bottomless ด้วยความใส่ใจ